พลานุภาพของการลอกแบบ
- อิศราวัฒน์ ปวินทกานต์
- 18 พ.ค. 2565
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2567
(The power of copying)
อิศราวัฒน์ ปวินทกานต์ ( 18/05/2565 )

มีคนจำนวนมากเท่าไรรอบๆ ตัวท่าน ที่ท่านสงสัยว่าพวกเขากำลังมีความสุขกับสภาพปัจจุบันของพวกเขาอยู่จริงๆ? เมื่อไรที่ท่านพบคนที่มีแรงปรารถนาจะเปลี่ยนและอยากเป็นเจ้าของชีวิตพวกเขาเอง จากนั้นท่านแนะนำให้กับพวกเขารู้จักกับการตลาดเครือข่าย เรามักเตือนพวกเขาว่า พวกเขาต้องใช้เวลาบ้างเพื่อเรียนรู้ทั้งหมดที่จำเป็นต้องรู้ แต่ในช่วงเริ่มต้นอย่างง่ายๆ เราแค่กำลังมองหาแรงปรารถนาและความเต็มใจให้คำมั่นสัญญาที่จะเรียนรู้
ถ้าพวกเขาต้องการควบคุมชีวิตของพวกเขาเอง ต้องการทิ้งความกังวลและความเครียดไว้ข้างหลัง เหมือนกับที่หลายๆคนในธุรกิจนี้ได้ทิ้งไปแล้ว จากนั้นเราจะแสดงให้พวกเขาได้เห็นว่า ทำอย่างไรเพื่อให้เป็นผู้ประกอบการ เราจะสอนให้พวกเขารู้วิธีทำธุรกิจนี้ก่อนที่พวกเขาจะออกไปทำ นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีกว่าหรือ?
ไม่นานนักแต่ละคนจะสอนคนอื่นๆ จากนั้น 2 คนนั้นจะสอนอีกคนละ 2 ต่อจากนั้น 4 คนนั้นจะสอนอีกคนละ 2 กลายเป็น 8 8 สอน 8 16 สอน 16 ไปเรื่อยๆ มันจะทวีคูณสองต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า ในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ขวบปี กระบวนการลอกแบบนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างมากมายเป็นหลักเป็นฐาน
เรามาดูกันอีกตัวอย่างหนึ่ง ท่านมีร้านอาหารสุดโปรดของท่านไหม? เลือกมาสักร้านหนึ่ง สมมุติว่าเดือนนี้ท่านพาเพื่อนไปกินอาหารค่ำที่นั่น ท่านและเพื่อนเท่ากับลูกค้า 2 คน เดือนต่อไปท่านพาเพื่อนอีกคนหนึ่งไปกินมื้อค่ำที่นั่นอีก
ขณะเดียวกันเพื่อนคนแรกของท่านเกิดชอบอาหารร้านนั้นเป็นอย่างมาก เธอจึงพาเพื่อนอีกคนหนึ่งของเธอไปด้วย ดังนั้น 2 (ท่านและเพื่อนคนที่ 2 ของท่าน) +2 (เพื่อนคนแรกของท่านและเพื่อนอีกคนของเธอ) เท่ากับลูกค้า 4 คน กำลังกินมื้อค่ำอยู๋ที่นั่น เดือนที่ 3 ท่านพาเพื่อนใหม่อีกคนหนึ่งไปที่นั่นอีกครั้ง และคนอื่นทุกคนก็ทำอย่างเดียวกับที่ท่านทำ ทำให้เกิด 4+4 เท่ากับ 8
ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่เดือนที่ 12 ท่านทราบไหมว่ากำลังจะมีลูกค้ากี่คนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำอยู่ที่ร้านอาหารสุดโปรดของท่าน ถ้าพฤติกรรมนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่องไม่ขาดตอน? ท่านเชื่อไหมว่าจะมีคนมากถึง 4096 คน น่าเหลือเชื่อใช่ไหม?
นั่นเป็นการทวีคูณยกกำลัง 2 จำนวน 12 ครั้ง จาก 1 เป็น 2, 4, 8, 16, 32, 64, 128, 256, 1,024, 2,048 และสุดท้าย 4,096 ท่านเชื้อเชิญคนเหล่านั้นด้วยตัวท่านเองกี่คน? ท่านพาไปแค่ 12 คนเท่านั้นซึ่งก็คือ 1 คนสำหรับแต่ละเดือน ทุกๆคนแค่พาคนใหม่ไปที่ร้าน 1 คนต่อเดือน
นอกจากตัวอย่างนี้จะเป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ค่อนข้างง่ายแล้ว มันยังสาธิตให้เห็นอีกด้วยว่าการเติบโตแบบยกกำลังนั้นมีผลานุภาพขนาดไหน
ตอนนี้เรามาดูกันต่อว่าเจ้าของร้านอาหารนั้นเก็บเงินได้เท่าไรจากการแนะนำของท่าน หรือพูดอีกอย่างว่า เก็บเงินได้เท่าไรจาก "พลังหนุนของผู้บริโภค" ( Customer Advocacy ) เราจะใช้ที่ตัวเลข 600 ต่อมื้อคิดเป็นค่าอาหารโดยเฉลี่ยของเรา นั่นจะเป็น ฿600x4,096 มื้อค่ำ เท่ากับ ฿2,457,600 เข้าบัญชีรายรับของร้าน นั่นแค่สำหรับเดือนที่ 12 เดือนเดียวเท่านั้น ท่านจำได้ใช่ไหมว่ามันถูกยกกำลังสองต่อเนื่องกันมาทุกๆเดือนเป็นเวลา 1 ปี
แล้วเจ้าของร้านอาหารให้ท่านเท่าไรสำหรับการโปรโมทร้านอาหารของเขาด้วยตัวท่านเอง? เขาไม่ได้จ่ายสักบาทใช่ไหม? ธุรกิจการค้าต่างๆ ไม่ได้จ่ายเงินท่านให้ไปแนะนำต่อหรือไปโปรโมทให้พวกเขา ถ้าเราชอบเราแค่โปรโมทให้ โดยธรรมชาติเราทำแบบนี้กันอยู่ตลอดเวลา
ต่อไปนี้คือประเด็น ในการตลาดเครือข่ายท่านจะได้รับค่าคอมมิชชั่นแบบลิขสิทธิ์เป็นค่าตอบแทนรายเดือน สำหรับการทำการตลาดตามสไตล์ที่ท่านชอบและได้แนะนำให้ลูกค้าได้เข้าร่วมกับบริษัทของท่านในแต่ละเดือน และไม่ใช่แค่ค่าคอมมิชชั่นเดือนเดียว แต่คือทุกเดือนนานตราบเท่าที่ยังมีลูกค้าของท่านซื้อสินค้าอยู่ มันยังคงไหลเข้าบัญชีเดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า
กระแสรายได้ที่ไหลมาไม่หยุดนี้เรียกว่า ดอกผลรายได้จากการทำธุรกิจที่บ้านตัวเอง (Residual income) มันคือสิ่งที่ท่านจะได้รับต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สำหรับการบอกต่อลูกค้าคนหนึ่งครั้งเดียว และมันยังคงทวีคูณต่อไปขณะที่เดือนและปีกำลังเดินผ่านไป และองค์กรของท่านก็จะขยายใหญ่โตขึ้นๆ
ในตัวอย่างที่แสดงไว้ด้านบน ถ้ายอดซื้อจำนวน ฿2,457,600 ถูกทำให้เกิดขึ้นในการตลาดเครือข่ายของท่านแทนที่จะเป็นของร้านอาหารสุดโปรดของท่าน ท่านน่าจะได้รับเช็คคอมมิชชั่นรายเดือนที่ระหว่าง 60,000-240,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแผนการจ่ายผลตอบแทนของบริษัทที่ท่านทำอยู่) นั่นคือผลตอบแทนสำหรับการขยายตลาดให้กับบริษัทท่าน บริษัทการตลาดเครือข่ายโดยทั่วไปจะแบ่งเงินประมาณครึ่งนึงของรายได้ของพวกเขา กระจายกลับคืนให้คนที่บอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับสินค้าและสร้างฐานลูกค้าให้กับเขา
จำนวนเงินค่าคอมมิชชั่นรายเดือนจะผันแปรหลากหลายตามแต่แผนการจ่ายผลตอบแทนของแต่ละบริษัท แต่ตามแต่ตำแหน่งของท่านในบริษัทนั้นๆ มีระดับการจ่ายอยู่หลายระดับในทุกๆโปรแกรม โดยหลักๆแล้ว จะคำนวณบนพื้นฐานของยอดจำหนา่ายสินค้าที่ถูกส่งไปให้ลูกค้าในแต่ละเดือน เห็นได้ชัดเจนว่ายิ่งท่านอยู่ยาวนานมากขึ้นกับบริษัทที่ท่านกำลังโปรโมทสินค้าและสร้างองค์กรอย่างกระตือรือร้น ยอดจำหน่ายของท่านก็ยิ่งขยายตัวมากขึ้นตามไปด้วย
รายได้มหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อในธุรกิจนี้คือ การเติบโตของสินค้าแบบยกกำลังที่ทรงพลานุภาพ ซึ่งเกิดขึ้นผ่านทางการทำตลาดตามสไตล์ที่ท่านชอบ ไม่มีใครต้องสปอนเซอร์คนเป็นพันๆ คนนักสร้างธุรกิจที่จริงจังส่วนใหญ่แค่สปอนเซอร์และสอนคนไม่กี่คนที่เป็นคนจริงจังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา การขยายตัวขนาดมหึมาในช่วงท้ายเกิดขึ้นผ่านธรรมชาติของปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ได้แสดงให้เห็นไปแล้วในตัวอย่างก่อนหน้านี้
ในทุกวันนี้โดยปกติท่านไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าใดๆ เว้นแต่ว่าท่านอยากจะสต็อค คนส่วนมากแค่สั่งสินค้าออนไลน์หรือสั่งทางโทรศัพท์ และบริษัทนั้นๆก็จะจัดส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภค ในความเป็นจริงลูกค้าเกือบทุกคนเซ็นสมัครสั่งซื้อสินค้าอัตโนมัติรายเดือนซึ่งเรียกว่า "ออโต้ชิพ"
ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องจดจำคำสั่งซื้อเลยด้วยซ้ำ หรือแม้แต่ต้องเจียดเวลาจากงานที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายของพวกเขาเพื่อมาสั่งซื้อสินค้า การเซ็นสมัครสั่งซื้อสินค้ารายเดือนนั้นสะดวกมากและยังหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
หากท่านลืมสั่งซื้อสินค้า ท่านจะไม่ได้รับเช็คค่าคอมมิชชั่นรายเดือนของท่าน บริษัทส่วนใหญ่โดยปกติแล้วมักจะระบุคุณสมบัติข้อบังคับให้ท่านสั่งซื้อสินค้าไว้บริโภคเป็นการส่วนตัวเดือนละครั้งเพื่อเช็คค่าคอมมิชชั่นเต็มเม็ดเต็มหน่วยของท่าน
ย้อนกลับไปที่ตัวอย่างลูกค้า 4,096 คนของเราด้านบนอีกครั้ง แม้ว่ามียอดจำหน่ายสินค้าถูกสร้างขึ้นมา แต่ท่านไม่ได้เป็นคนจัดการให้เกิดยอดนั้นด้วยตัวท่านเองเพียงลำพัง ท่านไม่ได้ออกไปหาคนกว่า 4,000 คนด้วยตัวคนเดียว ตามหลักทฤษฎีตลอดระยะเวลา 1 ปี ท่านแค่ต้องแนะนำลูกค้า 12 คนเท่านั้นให้ร้จักกับสินค้า ขณะที่ท่านทำอย่างนั้นท่านแค่กำลังสอนคนให้รู้ว่าจะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ด้วยวิธีที่ฉลาดและสนุกได้อย่างไร ในกระบวนการนี้ ท่านกำลังพัฒนาดอกผลรายได้ขนาดใหญ่ขึ้นมา
ขณะที่เวลาแต่ละปีผ่านไป ท่านจะพบกับคนอื่นๆ ที่โน่นที่นี่ทั่วไปหมด ได้พบกับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา เราสอนทคนิคการทำตลาดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลานุภาพนี้ให้กับใครก็ตามที่ต้องการเรียนรู้มัน
มันสำคัญที่ต้องชี้ประเด็นให้พวกเขาเห็นว่า พวกเขาต้องมีความอดทน การเติบโตแบบยกกำลังตามที่ได้กล่าวไปนี้ต้องการเวลา มันอาจจะใช้เวลาระหว่าง 1-3 ปี เพื่อให้ได้ขนาดใหญ๋ตามต้องการ คนจำนวนมากไม่เข้าใจเรื่องนี้ หมดความอดทนและเลิกล้มไปก่อนจะทำสำเร็จซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ
ในตัวอย่างของเรา ท่านจำเป็นต้องสต็อคสินค้าใช่ไหม? ไม่ใช่!
ท่านจำเป็นต้องเป็นนักขายใช่ไหม? ไม่ใช่!
ท่านจำเป็นต้องหาคนมากๆมาสอนให้พวกเขาใช้ระบบเป็นใช่ไหม? ไม่ใช่!
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมปุถุชนคนธรรมดาอย่างเช่นแม่และครูจึงทำธุรกิจนี้ได้ดี
พวกเขาอดทน พวกเขารู้จักให้ และรู้จักเอาใจใส่คนอื่นๆ พวกเขาใช้เวลาไปกับการสอนและการบ่มเพาะนิสัยให้กับนักการตลาดหน้าใหม่เหล่านั้น ความสำเร็จมาจากการสอน ไม่ใช่การขาย ขณะที่ท่านสอนคนอื่นๆ ให้รู้ว่าจะบรรลุชีวิตอิสระที่พวกเขาปรารถนาได้อย่างไร องค์กรของท่านจะขยายใหญ่โตขึ้น และในกระบวนการนั้น ทุกคนจะซื้อและใช้สินค้าที่โดดเด่นเหล่านั้น มันออกจะเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ
คุณลักษณะที่น่าทึ่งที่สุดของการตลาดเครือข่ายซึ่งผ่าเหล่าต่างไปจากทุกรูปแบบรายได้ครองชีพอื่นๆ ทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงคือ
การขยายตัวแบบยกกำลัง และ
ดอกผลรายได้
เพราะว่าท่านก็บริโภคสินค้ากันเป็นประจำอยู่แล้วทุกวัน และท่านก็บอกต่อให้คนไปอุดหนุนสินค้าหรือสถานที่ต่างๆมาเป็นแรมปี ทำไมจึงไม่เรียรู้วิธีสร้างรายได้และชีวิตอิสระที่ยอดเยี่ยมด้วยการทำสิ่งที่ท่านก็ทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
เรามีระบบที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งคนๆหนึ่งสามารถเรียนรู้ได้ว่าจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง พวกเขาจึงจะได้เป็นเจ้าของชีวิตตัวเองโดยการทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน ด้วยระบบที่เรียบง่าย ใช้ได้จริง คนโดยทั่วไปไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ระบบนี้ไม่ต้องทำงานขาย และสวนที่ดีที่สุด มันต้องการเวลาของท่านไม่มากเลย
โปรดติดต่อคนที่แชร์เว็บไซต์นี้แก่ท่าน หรือ

เฟสบุ๊คแฟนเพจ : https://www.facebook.com/lifestyletrainner.toon
เฟสบุ๊คส่วนตัว : www.facebook.com/toonisraa
E-mail : israwat.lovebf@gmail.com
โทร. 0811824145 , 0930652881
Line@ : https://lin.ee/88fzVAp
Comments